วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คอมพิวเตอร์กับการแก้ปัญหาการศึกษาไทย

                ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนไปเร็วขึ้นทุกที เทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆก็ต่างพัฒนาไปราวกับว่าจะไม่มีวันสิ้นสุด ประเทศไทยเองก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังมีการพัฒนาด้านเหล่านี้ โดยพยายามนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาพัฒนาประเทศ  จะเห็นได้ว่าด้านที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างมากคือด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้แบบเรียนสำเร็จรูปผ่านคอมพิวเตอร์ การใช้ Tablet ในการเรียนรู้ การเรียนรู้แบบ E-learning การใช้สื่อการเรียนรู้ต่างๆผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความเหมาะสมกับเด็กรุ่นนี้ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ถ้าลองมองการศึกษาไทยในปัจจุบันแบบมุมกว้างๆ เราจะพบว่ายังมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือแก้ไขแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกหลายๆปัญหา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องการเรียนการสอน ความไม่เข้าใจกันระหว่างครูและเด็กนักเรียน ปัญหาเด็กเบื่อหน่ายการเรียนการสอน เพราะเป็นการสอนแต่ในรูปแบบเดิมๆ คือฟังครูบรรยาย จดตาม ท่องจำ และอื่นๆอีกมากมาย  ซึ่งปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก หรือเรื่องทั่วๆไป แต่ในความเป็นจริง ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในการเรียนการสอน เพราะถ้าตั้งแต่เริ่มการเรียนการสอนแล้วเด็กไม่มีความสนใจ กระตือรือร้น หรือมีความอยากจะเรียน มันก็ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามติดต่อกันไปเป็นลูกโซ่ ดังนั้นเราควรเริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ส่วนย่อยๆ อาจเริ่มจากตัวครูเองก่อน ลองพิจารณาดูว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร แล้วจะมีทางใดที่เราสามารถแก้ไขได้บ้าง และการนำสิ่งใกล้ตัว สิ่งที่เด็กมีความสนใจอยู่แล้วมาช่วยแก้ปัญหา อาจทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายขึ้น
                การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการแก้ปัญหาการศึกษาไทย ต้องพิจารณาให้ดูว่าสมควรใช้ในด้านใด อย่างไรบ้าง คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นดาบสองคม หากเรานำมาใช้ดี ก็จะก่อประโยชน์ให้เราได้อย่างมาก แต่ในทางตรงข้าม หากเรานำไปใช้ในทางที่ผิดก็อาจก่อโทษให้แก่เราได้อย่างมากเช่นกัน  ณ  ที่นี้เราจะพูดกันถึงประโยชน์ในการนำมาใช้แก้ปัญหาการศึกษา  การนำคอมพิวเตอร์มาใช้นั้น เป็นการดึงดูดความสนใจของนักเรียน ให้หันกลับมาอยู่ที่บทเรียน มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า ยิ่งสื่อ หรือโปรแกรมการเรียนการสอน มีความน่าสนใจ มีลูกเล่นมากขึ้น และทำให้เด็กมีความเข้าใจได้อย่างเป็นรูปธรรม  อีกทั้งยังเป็นการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน เพราะเด็กได้รับการศึกษาที่เหมือนๆกัน ไม่แบ่งแยกว่าใครจะได้เรียนรู้มากกว่า น้อยกกว่ากัน   ปัจจุบันโปรแกรมการเรียนการสอนถูกพัฒนาขึ้นได้จนมีความสามารถมากมาย เรียกว่าแทบจะทำได้ทุกอย่าง และถูกนำมาบรรจุอยู่ในเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ ให้สามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งยังพกพาสะดวกไม่วุ่นวาย เช่น Tablet เป็นต้น แต่ส่วนตัวของผู้เขียนเองคิดว่า การให้เด็กนักเรียนใช้ Tablet ในการศึกษาเป็นสิ่งที่ดี แต่น่าจะกำหนดวัยของเด็กที่เริ่มใช้ให้มากกว่านี้ เช่น ประถมศึกษาปลาย น่าจะมีความเหมาะสมกว่าเด็กประถมต้น เพราะเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย จะเริ่มมีความรับผิดชอบมากกว่า และการที่ให้เด็กเล็กใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากตั้งแต่อายุน้อยๆ จะเป็นการทำลายเซลล์สมองเด็กมากกว่าการช่วยพัฒนาสมองเสียด้วยซ้ำ 
                อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีอาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการที่จะช่วยแก้ปัญหาการศึกษาของประเทศไทย  แต่สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด คือตัวของครูเอง และผู้ใหญ่ในสังคม ที่จะให้ความสนใจกับอนาคตของชาติตัวน้อยๆเหล่านี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงหาผลประโยชน์จากงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาการศึกษาของชาติ  หากเราช่วยกันดูและ ประคับประคองและช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างเร็ว และทัดเทียมชาติอื่นๆได้อีกมากมายในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น