ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนไปเร็วขึ้นทุกที
เทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆก็ต่างพัฒนาไปราวกับว่าจะไม่มีวันสิ้นสุด
ประเทศไทยเองก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังมีการพัฒนาด้านเหล่านี้
โดยพยายามนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาพัฒนาประเทศ
จะเห็นได้ว่าด้านที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างมากคือด้านการศึกษา
ไม่ว่าจะเป็นการใช้แบบเรียนสำเร็จรูปผ่านคอมพิวเตอร์ การใช้ Tablet ในการเรียนรู้ การเรียนรู้แบบ E-learning
การใช้สื่อการเรียนรู้ต่างๆผ่านคอมพิวเตอร์
ซึ่งมีความเหมาะสมกับเด็กรุ่นนี้ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ถ้าลองมองการศึกษาไทยในปัจจุบันแบบมุมกว้างๆ
เราจะพบว่ายังมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
หรือแก้ไขแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกหลายๆปัญหา
ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องการเรียนการสอน ความไม่เข้าใจกันระหว่างครูและเด็กนักเรียน
ปัญหาเด็กเบื่อหน่ายการเรียนการสอน เพราะเป็นการสอนแต่ในรูปแบบเดิมๆ
คือฟังครูบรรยาย จดตาม ท่องจำ และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก หรือเรื่องทั่วๆไป
แต่ในความเป็นจริง ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในการเรียนการสอน
เพราะถ้าตั้งแต่เริ่มการเรียนการสอนแล้วเด็กไม่มีความสนใจ กระตือรือร้น
หรือมีความอยากจะเรียน มันก็ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามติดต่อกันไปเป็นลูกโซ่
ดังนั้นเราควรเริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ส่วนย่อยๆ อาจเริ่มจากตัวครูเองก่อน
ลองพิจารณาดูว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร แล้วจะมีทางใดที่เราสามารถแก้ไขได้บ้าง
และการนำสิ่งใกล้ตัว สิ่งที่เด็กมีความสนใจอยู่แล้วมาช่วยแก้ปัญหา
อาจทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างง่ายขึ้น
การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการแก้ปัญหาการศึกษาไทย
ต้องพิจารณาให้ดูว่าสมควรใช้ในด้านใด อย่างไรบ้าง
คอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นดาบสองคม หากเรานำมาใช้ดี
ก็จะก่อประโยชน์ให้เราได้อย่างมาก แต่ในทางตรงข้าม
หากเรานำไปใช้ในทางที่ผิดก็อาจก่อโทษให้แก่เราได้อย่างมากเช่นกัน ณ
ที่นี้เราจะพูดกันถึงประโยชน์ในการนำมาใช้แก้ปัญหาการศึกษา การนำคอมพิวเตอร์มาใช้นั้น
เป็นการดึงดูดความสนใจของนักเรียน ให้หันกลับมาอยู่ที่บทเรียน
มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า ยิ่งสื่อ หรือโปรแกรมการเรียนการสอน
มีความน่าสนใจ มีลูกเล่นมากขึ้น และทำให้เด็กมีความเข้าใจได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังเป็นการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน
เพราะเด็กได้รับการศึกษาที่เหมือนๆกัน ไม่แบ่งแยกว่าใครจะได้เรียนรู้มากกว่า
น้อยกกว่ากัน ปัจจุบันโปรแกรมการเรียนการสอนถูกพัฒนาขึ้นได้จนมีความสามารถมากมาย
เรียกว่าแทบจะทำได้ทุกอย่าง และถูกนำมาบรรจุอยู่ในเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ
ให้สามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา อีกทั้งยังพกพาสะดวกไม่วุ่นวาย เช่น Tablet เป็นต้น แต่ส่วนตัวของผู้เขียนเองคิดว่า
การให้เด็กนักเรียนใช้ Tablet ในการศึกษาเป็นสิ่งที่ดี
แต่น่าจะกำหนดวัยของเด็กที่เริ่มใช้ให้มากกว่านี้ เช่น ประถมศึกษาปลาย
น่าจะมีความเหมาะสมกว่าเด็กประถมต้น เพราะเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย
จะเริ่มมีความรับผิดชอบมากกว่า
และการที่ให้เด็กเล็กใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากตั้งแต่อายุน้อยๆ
จะเป็นการทำลายเซลล์สมองเด็กมากกว่าการช่วยพัฒนาสมองเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม
เทคโนโลยีอาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการที่จะช่วยแก้ปัญหาการศึกษาของประเทศไทย แต่สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด คือตัวของครูเอง
และผู้ใหญ่ในสังคม ที่จะให้ความสนใจกับอนาคตของชาติตัวน้อยๆเหล่านี้อย่างจริงจัง
ไม่ใช่เพียงหาผลประโยชน์จากงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาการศึกษาของชาติ หากเราช่วยกันดูและ
ประคับประคองและช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างเร็ว
และทัดเทียมชาติอื่นๆได้อีกมากมายในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น